ความตั้งใจของตัวเองหลังจากเกษียณ คือกลับไปอยู่บ้านเกิดที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ดินดั่งเดิมที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายท่านเก็บไว้ให้ มีซื้อเพิ่มเติมบ้างตามกำลังที่พอมี วางแผนไว้ว่าบั้นปลายของชีวิตจะไปใช้ชีวิตกับสามีที่นี้ ทำนา ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ตามวิถีชีวิตของชาวชนบท
เราได้เข้าไปศึกษาเรื่องการทำเกษตรแบบผสมผสาน หรือไร่นาสวนผสม จากอินเตอร์เน็ตมากพอสมควร ทั้งได้ไปดูงานจากศูนย์ต่างๆ และได้ไปพบไปเห็นคนที่ทำสวน ทำเกษตรจริงๆ มาก็เยาะเพื่อเก็บเป็นข้อมูล ซึ่งจากที่ได้สัมผัสกับคนที่ทำจริงๆ มันไม่ง่ายเหมือนที่เขาเขียนไว้ในหนังสือเลย ทำแล้วมีปัญหามากมาย ทำแล้วผลผลิตที่ได้จะทำอย่างไร อันนี้เราก็เผื่อใจไว้แล้ว เราจะทำแบบเศรษฐิจพอเพียง ตามรอยพ่อหลวงรัชการที่ 9
การทำเกษตรแบบผสมผสาน หรือไร่นาสวนผสม มันไม่มีคำจำกัดความ ไม่มีกติกาหรือกฎตายตัว ว่าต้องเป็นพืชชนิดใด เลี้ยงสัตว์ชนิดใด ทั้งนี้ เพราะแต่ละพื้นที่และท้องถิ่นมีสภาพทางธรรมชาติที่แตกต่างกัน เพียงแต่การผสมผสานนี้ขอให้ยึดหลัก สร้างความร่มรื่น แล้วให้พืชหลายชนิดที่ปลูกอยู่ในพื้นที่เดียวกันมีการเกื้อกูลกันทางธรรมชาติให้มากที่สุด และสำคัญที่สุดคือผู้ปลูกต้องได้ประโยชน์มากที่สุด แล้วยังสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนด้วยเช่นกัน
คราวนี้เราก็ได้วางแผนเบื้องต้นไว้ว่า เราจะทำที่นา 10 ไร่ ให้เป็นไร่นาสวนผสม แล้วเราจะเริ่มตรงไหนละ เราควรไปปรึกษาใครดี ว่าเราจะขุดบ่อตรงไหน จะปลูกพืชอะไรบ้าง ปลูกตรงไหน จะเลี้ยงสัตว์อะไรบ้าง
ภาพนี้นำมาจากอินเตอร์เน็ต
จากการศึกษาจากอินเตอร์เน็ต เขาบอกว่าให้แบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน เราก็ลองมาวางดู
เราจะทำพื้นที่ทำนา 3 ไร่ ทำสวน 3 ไร่ เพื่อปลูกไม้ผล พืชผัก และขุดบ่อน้ำ 3 ไร่ เพื่อกักเก็บน้ำใช้ในการปลูกพืช เลี้ยงปลาหรือเลี้ยงเป็ด และเหลือพื้นที่ 1 ไร่ เอาไว้ปลูกบ้าน เป็นที่อยู่อาศัย โรงเรือนจัดเก็บวัสดุอุปกรณ์เกษตรและเล้าเป็ด หรืออาจจะทำเป็นศูนย์อบรมเล็กๆ เพื่อเปิดโอกาสให้คนได้เขามาศึกษา (คริคริ ฝันหวานไว้ก่อน)
ปีหน้าเราจะเริ่มไปขุดบ่อน้ำ เพื่อใช้สำหรับการทำเกษตรของพื้นที่ 10 ไร่ อันนี้เราต้องมาดูพื้นที่จริงก่อนว่าจะขุดตรงไหนจึงจะเหมาเสมและสวยงามด้วย
หลังจากนั้นเราก็จะปลูกต้นไม้ใหญ่รอบที่ดิน อันนี้เราก็ได้ไปขอต้นกล้าไม้สัก จากศูนย์เพราะกล้าไม้สักจากส่วนราชการมาไว้แล้วจำนวน 200 ต้น แต่ยังไม่ได้ลงมือปลูก
เราตั้งใจจะปลูกไม้ผลก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะให้ผล
ปลูกพืชสวนครัว ได้แก่ พริก ข่า ตะไคร้ หรือไม่เว้นแม้แต่พืชกินใบ อย่างกะหล่ำปลี ผักกาดดอก ซึ่งเป็นพืชที่เหมาะกับช่วงอากาศหนาว ดังนั้น จึงวางแผนปลูกพืชเหล่านี้ด้วยการเพาะไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วนำไปปลูกในพื้นที่ทำนาหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้วในช่วงปลายปี
อีกส่วนของพื้นที่สวนเกษตรจะได้ทำเป็นสวนมะนาว มีทั้งแบบปลูกลงดินกับปลูกในวงบ่อ เหตุผลที่ทำเช่นนี้เพราะต้องการเปรียบเทียบการเจริญเติบโต การให้ผลผลิต และความทนทาน ตั้งใจจะปลูกประมาณ 100 ต้นก่อน (การการศึกษา ระยะปลูก 4 เมตร ต้นพันธุ์เป็นกิ่งตอน มีอายุปลูก 8 เดือน จึงจะเก็บผลได้) เราต้องหามะนาวพันธุ์ดี ที่ออกดอกติดผลตลอดปี
วันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะ แล้วค่อยว่ากันใหม่นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น